วันสุดท้ายของการวนลูปออกจากกรอบเดิมๆ

วันสุดท้ายของการวนลูปออกจากกรอบเดิมๆ

เวลา 6:00 น.
เช้านี้ผมตื่นขึ้นด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน—ความสงบที่มาพร้อมกับความชัดเจน ผมลุกจากเตียง เปิดหน้าต่าง มองท้องฟ้าสีส้มยามรุ่งสาง และหายใจลึก ๆ

ไม่มีสมุดบันทึก ไม่มีคำถามใด ๆ วันนี้ผมไม่ต้องการคำตอบอีกแล้ว

เวลา 8:00 น.
ผมเดินทางไปทำงานตามปกติ แต่ครั้งนี้ผมเลือกทางที่คุ้นเคย—รถไฟฟ้าที่แน่นขนัดเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือสายตาของผม
ผมมองผู้คนรอบตัวด้วยความเข้าใจ คนที่กำลังเร่งรีบ คนที่กำลังจมอยู่ในความคิดของตัวเอง ผมเคยเป็นแบบนั้น… แต่วันนี้ต่างออกไป

เวลา 9:00 น.
ผมมาถึงออฟฟิศ และพบกระดาษโน้ตเล็ก ๆ วางอยู่บนโต๊ะทำงาน มันเป็นข้อความที่เพื่อนร่วมงานเขียนไว้ให้ผม
“ขอบคุณที่ฟังฉันเมื่อวาน มันทำให้ฉันคิดอะไรได้เยอะเลย”

ผมยิ้ม… การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ เริ่มเกิดขึ้นรอบตัว

เวลา 12:00 น.
ผมใช้เวลาพักเที่ยงนั่งทานข้าวกับทาคาดะ เราคุยกันเรื่องความฝันของเขาที่อยากเป็นนักดนตรี และผมเริ่มเล่าเกี่ยวกับสิ่งที่ผมอยากทำ…บางสิ่งที่ผมลืมไปนานแล้ว

“ฉันเคยอยากเขียนหนังสือ แต่คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้” ผมสารภาพ

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? ทุกอย่างเริ่มต้นจากการก้าวแรก” ทาคาดะยิ้ม

เวลา 17:00 น.
ก่อนเลิกงาน ผมตัดสินใจทำบางสิ่งที่ผมไม่เคยคิดจะทำ—ยื่นใบลาออกจากงาน

หัวหน้ามองผมด้วยความประหลาดใจ “คุณแน่ใจแล้วหรือ?”

“ครับ” ผมตอบด้วยความมั่นใจที่ไม่เคยมีมาก่อน “ผมต้องการเริ่มต้นใหม่”

เวลา 19:00 น.
ผมกลับมาที่บ้านพร้อมกับความรู้สึกโล่งใจ ผมเปิดสมุดบันทึกเล่มเดิมครั้งสุดท้าย ข้อความสุดท้ายที่ผมเขียนไว้คือ
“ชีวิตคือการเดินทาง ไม่ใช่การวนลูป”
ผมปิดสมุดบันทึกแล้วเก็บมันไว้ในลิ้นชัก ไม่ใช่เพราะผมต้องการลืมมัน แต่เพราะผมไม่ต้องการมันอีกต่อไป

วันสุดท้ายของการวนลูปออกจากกรอบเดิมๆ

ผมเดินทางไปถึงสถานที่ที่ทาคาดะจะเล่นดนตรีจากที่เขาเคยบอกผมว่าเขาอยากเป็นนักดนตรี มันคือวันนี้ วันที่เขาได้ร้องเพลงในบรรยากาศง่าย เป็นคาเฟ่เล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มาเพื่อฟังเสียงเพลงของวงสมัครเล่น ผมนั่งอยู่ที่มุมหนึ่ง มองดูเพื่อนร่วมงานที่เคยเป็นคนเงียบ ๆ แต่วันนี้เขากำลังเล่นเพลงด้วยรอยยิ้มและความสุขที่เปล่งประกายออกมา

ในช่วงท้ายของการแสดง ทาคาดะประกาศว่าเพลงสุดท้ายของคืนนี้จะเป็นเพลงที่เขาแต่งขึ้นมาเอง ชื่อเพลงคือ “จุดเริ่มต้น”
หลังจากผมได้ยินชื่อเพลง ทำเอาผมขนลุกไปทั้งตัว  เสียงเพลงนั้นสะท้อนความรู้สึกของผมทุกประการ มันพูดถึงการค้นหาความหมายในชีวิต การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ที่ทำให้ทุกอย่างต่างออกไป


วันพรุ่งนี้…

ไม่มีอะไรแน่นอน แต่ผมไม่กลัวอีกต่อไป เพราะทุกวันคือการเริ่มต้นใหม่ และผมเลือกที่จะเป็นผู้เขียนเรื่องราวของตัวเอง

“ชีวิตไม่ใช่กรอบที่เราถูกขังอยู่ แต่เป็นกระดาษเปล่าที่เราสามารถวาดทุกสิ่งที่เราต้องการ”

ถึงบรรทัดนี้ผมเองก็หวังว่าสักวันหนึ่ง “ทาคาดะ” เพื่อนของผมคนนั้นจะได้เห็นผลงานที่ผมเขียนและมีแรงบันดาลใจ เรื่องเล่า ของตัวเขาเป็นส่วนเติมเต็มหนึ่งที่ทำให้ผมเป็นนักเขียนได้อย่างในวันนี้เช่นกัน

เพื่อนคุณคงดีใจ ถ้าคุณแชร์เรื่องราวดีๆไปให้