Negativity Bias คืออะไร

Negativity Bias คืออะไร

การท่องเที่ยวสุดแสนวิเศษของคุณ ระหว่างทางกับวิวสวยๆ ของกินอร่อยๆ และปลายทางที่ทำให้คุณได้พบกับหาดทรายสีขาว และน้ำใสชนิดที่ทั้งชีวิตไปมาทุกที่ก็ไม่เคยเห็น

การบริการของพนักงานโรงแรมที่ประทับใจ ห้องพักที่สะอาดหรูหรา อาหารเช้าอันเลิศรส ทุกอย่างยอดเยี่ยมเกินกว่าที่คุณคาดฝันไว้ แต่มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นคือ คุณโดนแมงกะพรุนไฟทำเอาเกิดบาดแผลขณะลงเล่นน้ำทะเล  เมื่อเวลาผ่านไปคุณอาจจะลืมรสชาติอาหารเช้าอันแสนวิเศษนั้นไปแล้ว ในขณะที่เหตุการณ์การโดนแมงกะพรุนไฟจะยังคงอยู่ไม่จางหายที่กลายเป็นประสบการณ์อันเลวร้ายของทริปนั้นๆ ไม่ว่าเรื่องดีๆเกินคาดจะมีมากมายแค่ไหน แต่เรื่องแย่ๆเพียงเรื่องเดียวก็ทำเอาคุณจดจำไปอีกนาน ปรากฏการณ์แบนี้เองที่เรียกว่า อคติทางด้านลบ หรือ Negativity Bias

Negativity Bias คืออะไร

อาหารมื้อที่แสนวิเศษอาจถูกทำให้ลืมด้วยความทรงจำเชิงลบเพียงเรื่องเดียว

.

Negativity Bias คืออะไร

Negativity Bias คือ อคติของมนุษย์ที่มีแนวโน้มว่าจะให้น้ำหนักหรือใส่ใจกับประสบการณ์ในด้านลบมากกว่าประสบการณ์ในด้านบวก มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตัวอย่างเช่น ในทางเศรษฐศาสตร์ มนุษย์เรามีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงตัวเลือกที่ทำให้รู้สึกสูญเสียมากกว่าตัวเลือกที่จะได้รับ ยกตัวอย่างง่ายๆก็คือ ความรู้สึกที่จะต้องเสียเงินฟรีๆ100บาท จะรู้สึกเข้มข้นกว่าที่จะได้รับเงินฟรีๆ100บาท แม้ว่าตัวเลขนั้นจะเป็นตัวเลขของจำนวนเงินที่เท่ากัน

ในงานวิจัยหนึ่งของ Tiffany A. Ito ในเดือนพฤศจิการยนปี 1998 พบว่าสมองของมนุษย์จะตอบสนองรุนแรงมากกว่ากับตัวกระตุ้นเชิงลบ การทดลองทำโดยแสดงรูปภาพให้กับผู้ถูกทดลองจำนวน 33 คนและลองวัดคลื่นไฟฟ้าจากสมอง โดยมีรูปแบบของรูปภาพ 3 แบบ คือ รูปภาพกลางๆ เช่น จาน, รูปภาพเชิงบวก เช่น การเล่นอย่างสนุกสนานในสวนสนุก และ รูปภาพเชิงลบเช่นการถูกปืนชี้มาที่หน้า ผลการทดสอบที่ได้สนับสนุนสมติฐานที่ว่า ภาพในเชิงลบกระตุ้นสมองได้ดีกว่าภาพในเชิงบวกหรือภาพกลางๆ

Negativity Bias คืออะไร

ตัวอย่าง ภาพเชิงบวกที่ใช้ในการทดลอง

.

อีกงานวิจัยที่สนับสนุนว่า มนุษย์เราจะมีความทรงจำในเรื่องเชิงลบที่ยาวนานกว่าเรื่องในเชิงบวก (เหมือนกับที่แสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างในย่อหน้าแรกของบทนี้) คืองานวิจัยของ Larsen Randy ในปี2009 ที่ค้นพบหลักฐานที่ว่าอารมณ์ในเชิงลบมักยาวนานกว่าในเชิงบวก เนื่องด้วยว่ามนุษย์เรามักคิดเกี่ยวกับเรื่องเชิงลบบ่อยกว่า นานกว่า

.

แล้วทำไม Negativity Bias จึงเกิดขึ้นกับมนุษย์

เกิดเป็นคนทั้งๆที ทำไมจิตใจเราไม่คิดถึงเรื่องเชิงบวกให้มากกว่าเชิงลบ ทำไมมนุษย์เรารู้สึกทั้งอารมณ์และความทรงจำต่อเรื่องลบมากกว่าเรื่องเชิงบวก  จากการศึกษาในเชิงลึกเกี่ยวกับบเรื่อง Negativity Bias ของ Carpaccio และ Berntston ในปี 1999 สรุปได้ว่า Negativity Bias เกิดขึ้นเพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการของมนุษย์ ย้อนไปเมื่อพันๆปีก่อน มนุษย์เราเป็นเผ่าพันธุ์ที่ดำรงอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้ก็เพราะว่าบรรบุรุษของเราในตอนนั้นให้ความใส่ใจกับตัวกระตุ้นเชิงลบและหาทางรอดจากมันมาได้ และเผ่าพันธุ์ที่ให้น้ำหนักไปที่ตัวกระตุ้นเชิงบวกมากกว่าเชิงลบก็คงสูญพันธุ์หรือไม่ได้วิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์เราในทุกวันนี้ นี่เป็นคำตอบที่เป็นที่ยอมรับกันในปัจจุบัน เหตุผลเรื่องการวิวัฒนาการนี้เป็นแนวทางเดียวกับที่เคยกล่าวถึงแล้วในเรื่อง ก็เพราะกลัว ถึงมีวันนี้

Negativity Bias คืออะไร

การวิวัฒนาการนี้เองที่ทำให้เรามี Negativity Bias

.

เราจะเอาชนะ Negativity Bias ได้อย่างไร

Negativity Bias ก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน เพราะมันทำให้เราระแวดระวังเรื่องลบๆที่อาจจะเกิดขึ้น และเราสามารถใช้ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องเชิงลบมาพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้นในอนาคตต่อไปได้ แต่ถ้า Negativity Bias มีมากเกินไปแทนที่จะเอาประสบกาณ์นี้ไปใช้เป็นประโยชน์ในอนาคต เราอาจจะตรอมใจตายก่อนได้ ดังนั้นเรามาดูว่าจะปรับสมดุลของ Negativity Bias ให้พอเหมาะได้อย่างไร ไม่ให้มันมากวนใจเรามากเกินไปนัก

  1. แทนที่ Negativity Bias ด้วยเรื่อง Positive

คงเป็นการยากที่เราจะหลีกเลี่ยง Negativity Bias ในตัวเราเองได้ ดังนั้นในเมื่อมันเลี่ยงได้ยาก สิ่งที่จะทำให้ง่ายก็คือ หาเรื่องเชิงบวกเข้ามาแทนที่ Negativity Bias นั้นๆ แน่นอนมันไม่ง่าย เรื่องลบๆหนึ่งเรื่อง อาจจำเป็นต้องใช้เรื่องบวกหลายๆเรื่องเข้ามาแทนที่ให้มากพอจนทำให้ความรู้สึกกังวลในเชิงลบนั้นหายไป เช่น เมื่อคุณเจอแมงกะพรุนไฟจากทริปอันแสนวิเศษของคุณ คุณคงลืมมันไม่ได้ง่ายๆ แต่ลองแทนที่มันด้วย รูปภาพแห่งความสุขตลอดทริปเดินทาง ลงรูปคุณกับวิวสวยๆในสังคมออนไลน์ รูปที่คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศและอาหาร รีวิวเรื่องดีๆของทริปนั้นลงใน Blog ส่วนตัว หรือเขียนไดอารี่ที่กล่าวถึงแต่เรื่องดีๆ เรื่องเชิงบวกหลายๆเรื่องแบบนี้ ก็จะทำให้คุณลืมๆเรื่องแมงกะพรุนไฟลงได้บ้าง

Negativity Bias คืออะไร

หาเรื่องดีๆมาแทนที่ความคิดเชิงลบ

.

  • ดื่มด่ำกับช่วงเวลาเชิงบวก

นอกจากการหาเรื่องเชิงบวกมาแทนที่เรื่องเชิงลบแล้ว ขณะที่คุณพบเจอกับเรื่องเชิงบวก ลองดื่มด่ำกับมัน ให้เวลากับเรื่องนั้นให้นานขึ้น ชื่นชมและซึมซับความรู้สึกในเชิงบวกที่คุณได้จากตัวกระตุ้นเชิงบวกนั้นให้นานขึ้น หลังจากนั้น ลองเขียนเรื่องราวหรือความรู้สึกเชิงบวกที่ได้จากเรื่องนั้นๆออกมา เพื่อให้สมองได้เพลิดเพลินกับเรื่องราวดีๆความรู้สึกดีๆ

  • ทำสมาธิ

เหมือนฟังดูธรรมดา แต่การทำสมาธิโดยกำหนดลมหายใจเข้าออก เพื่อสร้างสมาธิทางจิตใจให้กับตัวเอง ช่วยทำให้เราเข้าใจตัวเอง ควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้มากขึ้น หากคุณไม่คิดว่ามันเป็นไปได้ มีงานวิจัยรองรับเรื่องเหล่านี้แล้วในปี 2011 เป็นงานวิจัยของ Kiken และ Shook ที่พบว่าการเพิ่มความรู้สึกในเชิงบวกมาจากการทำสมาธิโดยการควบคุมการหายใจ สิ่งนี้ทำให้เราสู้กับ Negativity Bias ได้

Negativity Bias คืออะไร

การทำสมาธิโดยกำหนดลมหายใจเข้าออกก็ช่วยได้

.

นักรับย่อมมีบาดแผล

แม้ในการดำเนินชีวิตของเราทุกคนในแต่ละวัน Negativity Bias จะเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติของมนุษย์เนื่องจากการวิวัฒนาการของเผ่าพันธุ์เรา แต่เราสามารถที่จะสอนสมองของเราให้ปรับตัวไปในเชิงบวก ผลักดันให้ความคิดเชิงบวกเข้ามามีบทบาทมากขึ้นและใช้ความรู้สึกจากเรื่องราวในเชิงลบมาเป็นบทเรียนและประสบการณ์เพื่ออนาคตข้างหน้าต่อไป

สำหรับคนที่ผิดหวังจากความรัก ชนิดที่คนไม่เจอเองไม่มีทางเข้าใจ แน่นอนว่ามันยากที่จะลืมได้ในวันนี้พรุ่งนี้ แต่เราก็มีเรื่องราวๆดีๆที่ได้พบเจอ ส่วนความสัมพันธ์ที่เพิ่งจบลงไปมันจะถูกนำมาเป็นบทเรียนและปรับปรุงตัวเราให้แข็งแกร่งขึ้นในสนามรักครั้งหน้า เหมือนกับคำกล่าวของ Chris Burkmenn ที่ว่า

“Warriors will always have wounds from the battle, but they are only stronger from them”

“นักรบย่อมต้องมีบาดแผลจากสงคราม และนั่นก็คือหลักฐานของผู้ที่รอดจากมัน”

ไม่เพียงแต่ในสนามรบในสนามรักเองก็เช่น…

เรื่องที่คุณน่าจะสนใจเพิ่มเติม

เพื่อนคุณคงดีใจ ถ้าคุณแชร์เรื่องราวดีๆไปให้